1.ระวังข้างถนนที่มีระเบียงและหน้าต่าง
บางคนมีนิสัยไม่ดี ถ่มน้ำลายและก้นบุหรี่ยังไม่เพียงพอ แถมยังโยนของลงมาจากที่สูง เช่น หลุมผลไม้ต่างๆ แบตเตอรี่เสีย ฯลฯ สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มเล่าว่ากระจกรถฮอนด้าของเขาที่อยู่ชั้นล่างแตกเพราะลูกพีชเน่าๆ ที่ถูกโยนลงมาจากชั้น 11 และฝากระโปรงรถโฟล์คสวาเกนสีดำของเพื่อนอีกคนก็แตกเพราะแบตเตอรี่เสียที่ถูกโยนลงมาจากชั้น 15 ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือในวันที่ลมแรง กระถางดอกไม้บนระเบียงบางแห่งอาจปลิวลงมาได้หากไม่ได้รับการซ่อมแซมอย่างถูกต้อง ซึ่งผลที่ตามมานั้นแทบจะจินตนาการไม่ออกเลย
2.พยายามอย่าใช้ “ที่จอดรถประจำ” ของผู้อื่น
ที่จอดรถริมถนนหน้าร้านบางร้านอาจถูกมองว่าเป็น "ที่จอดรถส่วนตัว" ของบางคน การจอดรถเพียงครั้งหรือสองครั้งก็ไม่เป็นไร การจอดรถนานๆ บ่อยๆ มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกตอบโต้ เช่น การทาสี การเจาะยาง และการปล่อยลมยาง การทุบกระจก ฯลฯ นอกจากนี้ ควรระมัดระวังอย่าหยุดรถกีดขวางทางเดินของผู้อื่น เพราะอาจทำให้ถูกตอบโต้ได้ง่าย
3.ระวังรักษาระยะห่างด้านข้างให้ดีที่สุด
เมื่อรถสองคันจอดเทียบเคียงกันข้างถนน ระยะห่างแนวนอนจะแตกต่างกัน ระยะที่อันตรายที่สุดคือประมาณ 1 เมตร 1 เมตรคือระยะที่ประตูสามารถถูกเคาะได้ และเมื่อถูกเคาะจะเกือบเท่ากับมุมเปิดสูงสุดของประตู นั่นคือความเร็วแนวเส้นสูงสุดและแรงกระแทกสูงสุด ซึ่งเกือบจะแน่นอนว่าจะทำให้ช่องว่างหลุดหรือสีเสียหาย วิธีที่ดีที่สุดคือจอดรถให้ห่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ จอดรถให้ห่างจากรถ 1.2 เมตรขึ้นไป แม้ว่าจะเปิดประตูจนถึงช่องเปิดสูงสุดก็จะไม่สามารถเข้าถึงได้ หากไม่มีทางที่จะอยู่ห่างได้ ให้จอดให้ห่างจากรถไม่เกิน 60 ซม. เนื่องจากความใกล้ชิดกัน ตำแหน่งที่ทุกคนเปิดประตูและขึ้นลงรถจึงคับแคบและมีการเคลื่อนตัวน้อย แต่ก็ไม่เป็นไร
4.ระวังเมื่อจอดรถใต้ต้นไม้
ต้นไม้บางต้นจะออกผลตามฤดูกาล และผลจะแตกเมื่อตกลงบนพื้นหรือบนรถ น้ำหวานที่ค้างอยู่ก็จะเหนียวข้นมาก ขี้นก ยางไม้ ฯลฯ ใต้ต้นไม้จะกัดกร่อนได้ง่าย และรอยแผลบนสีรถก็ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
5.หยุดอย่างระมัดระวังใกล้ทางออกน้ำของชุดภายนอกของเครื่องปรับอากาศ
หากน้ำจากเครื่องปรับอากาศโดนสีรถ รอยที่เหลืออยู่จะล้างออกยาก และอาจต้องขัดหรือถูด้วยแว็กซ์ทราย
เวลาโพสต์: 25 เม.ย. 2565